top of page

แนะนำร้านอาหารไทยน่าสนใจ

5 ร้านอาหารไทยต้นตำหรับ น่าสนใจ

 

1.Baan yii san

            รสชาติอาหารพื้นบ้านต้นตำรับ อุดมด้วยผักสมุนไพรไทย – บ้านยี่สารเป็นร้านที่ซ่อนตัวใต้ชายคาเรือนทรงไทยหลังใหญ่ที่จะพาคุณย้อนกลับไปสู่อดีตกาล เมื่อครั้งเพลงไทยเดิมยังก้องกังวาน ด้วยบรรยากาศแบบไทยโบราณเต็มขั้น เพราะพนักงานของร้านยังแต่งกายด้วยชุดไทย และอาหารของร้านก็เน้นอาหารไทยโบราณที่หากินยากและใช้ผักสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบหลัก อย่าง “ยำผักชะคราม” ผักสมุนไพรชื่อแปลกหู จับมายำแบบโบราณ จนได้รสชาติละม้ายคล้ายยำถั่วพู เป็นเมนูโบราณที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง หรือจะลอง “แกงส้มมะรุมกุ้ง” รสจัดจ้านแซ่บถึงเครื่องพร้อมด้วยสรรพคุณทางยา ซึ่งสมัยนี้หาคนเอามะรุมมาทำเป็นอาหารไม่ค่อยได้แล้ว ใครมาร้าน “บ้านยี่สาร” จะต้องตื่นตาตื่นใจกับพืชผักและวัตถุดิบที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยกิน และไม่เคยรู้จักมาก่อนแน่นอน

 

2.krua chumsai

           ลิ้มรสอาหารไทยจากสูตรดั้งเดิม ของ ม.ล.เติบ ชุมสาย – จากร้านอาหารที่เปิดมายาวนานกว่า 27 ปี และมีสาขากว่า 20 สาขาด้วยสูตรอารหารตำรับชาววังของ ม.ล.เติบ ชุมสาย ที่มีทั้งเมนูกินเล่นหน้าตาดีชื่อเพราะอย่าง “นางงามสองหน้า” ที่นำเอากุ้งสับวางบนสาหร่ายรสเข้ากั๊นเข้ากัน หรือจะเป็น “ไก่บ้านต้มสมุนไพร” ที่อกไก่นุ่มชุ่มฉ่ำด้วยน้ำซุปสมุนไพรไทยที่ซึมลึกถึงเนื้อใน และที่ขาดไม่ได้คือ “บัวลอยสามสี” ขนมหวานแบบไทยที่น้ำกะทิหวานลิ้นกำลังดี หรือใครอยากทางแกงหายาก เช่น “แกงคั่วหอยขม” “ซี่โครงหมูอ่อนผัดเผ็ด” ก็เป็นเมนูเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาด แล้วรื่นรมย์กับบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง มีดนตรีให้ร้องเพลง เหมาะสำหรับพาผู้ใหญ่หรือคนในครอบครัวมาสังสรรค์เฮฮาร่วมกัน

3.Lai rod

       คิดถึงข้าวแช่ชาววัง คิดถึงหลายรสเท่านั้น – พอถึงหน้าร้อนทีไร คงไม่มีอาหารไทยเมนูไหนคลายร้อนได้ดีเท่าอาหารชาววังอย่าง “ข้าวแช่” อีกแล้ว และเมื่อคิดถึง “ข้าวแช่” ตำรับชาววังแท้ๆ ประณีตบรรจงในการทำทุกขั้นตอน และครองใจนักชิมตั้งแต่รุ่นใหญ่จนถึงรุ่นเล็ก ก็ต้องหนีไม่พ้น “ข้าวแช่” ของร้าน “หลายรส” แน่ๆ เพราะ “ข้าวแช่” ร้าน “หลายรส” เป็นสูตรของวังละโว้ ที่มีจุดเด่นตรงเครื่องเคียงซึ่งบรรจงปรุงอย่างพิถีพิถัน ได้ทานคู่กับข้าวสวยแช่น้ำอบกลิ่นดอกไม้ ลูกกะปิ หมูหวาน หัวหอมยัดไส้ พริกหยวกยัดไส้หมูสับ ที่เข้ากับความหอมเย็นชื่นใจของข้าวแช่ เป็นความกลมกล่อมชื่นใจที่เหมาะกับหน้าร้อนจริงๆ และนอกจากข้าวแช่ ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยแท้ที่กินแล้วเป็นต้องคิดถึงรสมือคุณยาย เพราะเป็นรสชาติแบบไทยแท้ๆ ถึงเครื่องทุกอย่าง….ใครอยากพาครอบครัวมาอร่อยกับข้าวแช่ และอาหารไทยแท้ใต้ชายคาบ้านเก่าสไตล์โคโลเนียล คลอไปกับเพลงสุนทราภรณ์ในบรรยากาศเก่าๆ ในสนนราคาที่ไม่แพงต้องที่นี่เลย

 

4.Patara fine thai cuisine

อาหารไทยแท้ที่เข้าถึงง่าย – ร้านอาหารไทยตำรับชาววังใจกลางซอยทองหล่อที่นำเอาบ้านเก่าหลังงามมารีโนเวท ตกแต่งใหม่เป็นร้านอาหารที่ผสมผสานความเป็นไทยกับโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกัน อย่างลงตัว ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกใจคนไทยและต่างชาติ อาหารของทางร้านมีทั้งอาหารไทยประยุกต์และอาหารไทยโบราณสูตรดั้งเดิมที่ เรียกว่า หาทานได้ยาก การเลือกใช้วัตถุดิบในการปรุงไปจนถึงการเลือกภาชนะกระทั่งการจัดจานเรียกได้ ว่าประณีตทุกกระบวนการ เมนูเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ต้องลิ้มลองเป็น “ยำตะไคร้ปาท่องโก๋กรอบ” ที่นำเอา ปาท่องโก๋ทอดราดน้ำยำ ที่น้ำยำทำจากน้ำพริกเผาและมะขามเปียกคลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพร หรือจะลองแกงเผ็ดเป็ดย่าง กับข้าวสี่สี อย่าง “ข้าวมันปู” “ข้าวหอมมะลิ” “ข้าวหอมดอกคำฝอย” และ “ข้าวหอมใบเตย” จะได้อรรถรสเป็นอย่างมาก

5.Klang soi

ร้านเก่าแก่อายุ 30 กว่าปี กับอาหารรสชาติไทยแท้ๆ – ร้านอาหารไทยกลางซอยสุขุมวิท 49 ที่เป็นร้านเก่าแก่อีกร้านหนึ่งในย่านสุขุมวิท เพราะเปิดมานาน 30 กว่าปีแล้ว ด้วยบรรยาศโปร่งสบายคล้ายอยู่บ้าน เพราะดัดแปลงมาทำเป็นร้านอาหาร อีกทั้งรสชาติของอาหารที่เป็นสูตรความอร่อยจากคุณยายที่ถ่ายทอดสู่เจ้าของร้าน ทำให้มีลูกค้าทั้งจรและประจำแวะเวียนเข้ามาอยู่ตลอด โดยจานที่เขายกนิ้วว่าเจ๋งมีทั้ง “ต้มกะทิสายบัว” แกงไทยโบราณที่นำเอาปลาทูสดๆตัวใหญ่ มาต้มกับกะทิ สายบัว และหอมแดง ให้รสเปรี้ยวหวานมันผสมกันอย่างลงตัว อีกเมนูที่พลาดไม่ได้ต้อง “ปลาดุกกรอบผัดเผ็ด” ที่เขาว่าทอดกรอบกินได้ทั้งตัวไม่เว้นก้าง แต่เนื้อปลากับนุ่มอร่อยผัดใส่เครื่องแกง โรยกระเพาะกรอบ ถ้าได้ข้าวสวยร้อนๆ ทานคู่กันล่ะก็อร่อยเหาะ หรือเมนูกินเล่นแต่อร่อยจริงจัง อย่าง “กระทงทอง” “ยำส้มโอ” และของหวานแบบโบราณอร่อยชื่นใจ อย่าง “สละลอยแก้ว” ก็อร่อยไม่แพ้เมนูอาหารจานหลัก และนอกจากอาหารจะอร่อยไม่แพ้ใครแล้ว ร้าน “กลางซอย” ยังมีความสะดวกสบายมอบให้ลูกค้าอีกด้วย เพราะโต๊ะของที่นี่มีปุ่มกดสำหรับเรียกพนักงานมารับออร์เดอร์หรือเช็กบิลอีกด้วย ไม่ต้องรอเรียกให้เสียเวลา

bottom of page